วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

กิจวัตรประจำวัน

กิจกรรมวันอังคาร
ช่วงเช้า
- ไปเรียนตามปกติ เรียนๆ
ช่วงบ่าย
- กินข้าวเส็จ ก็เรียนเหมือนเดิม
- ไฮไลท์วันนี้ เรียนเคมี 2 คาบรวดในช่วงคาบสุดท้าย
ช่วงเย็น
- ไปเรียนพิเศษเคมีต่อ จนถึง 18.30 น. (เฮ้อ มันเหนื่อยมาก)
ช่วงดึก
- กลับบ้าน เล่น facebook ตามปกติ ปั่นงานด้วยมั้ง แล้วก็นอน
ตัวอย่างตารางธาตุเคมี

กิจกรรมวันจันทร์
ช่วงเช้า
- คาบแรกเรียนคอมฯ เล่นเกมส์ ทำงาน ฯลฯ
- เรียนชีวะ พยายาม ตั้งใจจดและเรียนเหมือนคนอื่น 5555+
ช่วงบ่าย
- แล้วก็เรียน เรียน และเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงคาบสุดท้าย ^^
ช่วงเย็น
- ไปนั่งดูเอล(ดวนการ์ดยูกิ)อย่างเมามันส์
- กลับบ้าน ทำงาน เล่นเกมส์ และนอน
ตัวอย่างการดูเอลสุดมันส์

กิจกรรมวันอาทิตย์
ช่วงเช้า
- ไปเรียนพิเศษที่ Mu Acadamy หลังโรงเรียนประชาวิทย์ วิชาคณิตศาสตร์
- ทำภารกิจเล็กน้อย แล้วไปบ้านเพื่อนต่อ
ช่วงบ่าย
- เล่นเกมและทำงานที่บ้านเพื่อน
- ไปเที่ยวที่บิีกซี๊
ช่วงเย็น
- ทำการบ้านต่อให้เส็จ
ช่วงดึก
- เล่นเฟสบุ๊ค และเข้านอน
ภาพบรรยากาศ Big C ลำปาง

7 วิชาชีพที่สามารถทำงานได้อย่างเสรีในประชาคมอาเซียน


  • อาชีพวิศวกร( Engineering Services)
  • อาชีพพยาบาล (Nursing Services)
  • อาชีพสถาปนิก(Architectural Services)
  • อาชีพการสำรวจ (Surveying Qualifications)
  • อาชีพนักบัญชี (Accountancy Services)
  • อาชีพทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
  • อาชีพแพทย์ (Medical Practitioners)

ความร่วมมือในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - ยุโรป

สัญลักษณ์อาเซียน - ยุโรป
 
     ยุโรปกับอาเซียนได้ตกลงจะมีความร่วมมือในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีต่อกันมาตั้วแต่ ปี 2007 ในการจัดประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ยุโรป ที่ประเทศบรูไน โดยมีกรอบในการเจรจาที่ครอบคลุมถึงการเปิดเสรีการค้า การค้าบริการและการลงทุนรวมทั้งความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ โดยมีการจัดตั้งกรรมการร่วมจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - ยุโรป (Join Committee on Asian-Europe FTA) กำหนดให้มีการเจราปีละ 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดมีการเจรจากันเป็นครั้งที่ 7 ในเดือนมีนาคม 2009 ที่มาเลเซีย แต่การประชุมไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากประเทศอาเซียนหลายประเทศไม่มีความพร้อม อียูจึงจะขอเน้นเจรจาเป็นรายประเทศที่มีความพร้อมก่อน ส่วนการประชุมของทั้งหมดจะหยุดพักเอาไว้ชั่วคราว 

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

ภาคอุตสาหกรรมไทยจำเป็นต้องมีการปรับตัว


  • การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทั้งในด้านแรงงาน เทคโนโลยี รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้
  • การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคและระบบโลจิสติกส์เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ
  • หาตลาดส่งออก ปรับปรุงการผลิตให้สามารถปฏิบัติตามกฎถิ่นกำเนิดสินค้าของอาเซียนได้ รวมถึงการบริหารจัดการ การจัดหาวัตถุดิบราคาถูกและมีคุณภาพดีในภูมิภาค
  • การปรับปรุงโครงสร้างภาษีของไทยทั้งระบบเพื่อให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการไทย
  • ส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายการผลิต (Production Network) เพื่อให้สามารถสร้าง Economy of Scale เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
  • ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม
  • มีกลไกที่ก่อให้เกิดความเสมอภาคในการเข้าสู่ตลาดภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

    ตัวอย่าง โรงงานอุตสาหกรรม

  • ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ AEC

    สัญลักษณ์ของอาเซียน
        สัญลักษณ์อาเซียน คือ ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้นมัดรวมกันไว้ หมายถึงประเทศสมาชิกรวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
    • สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง
    • สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า
    • สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์
    • สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
    แผนภาพแสดงประเทศของอาเซียน
     
         อาเซียน (ASEAN) หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2510 สมาชิกเริ่มแรกมี 6 ประเทศ คือ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ภายหลังได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 4 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม หรือที่เรียกกันว่า CLMV โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคอันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และได้มีการรวมกลุ่มเพื่อขยายความร่วมมือและการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้นโดยการจัดทำเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เมื่อปี 2535
         ในปี 2546 อาเซียนได้กำหนดทิศทางที่แน่ชัดว่า ความร่วมมือจะต้องเดินทางไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) อีกสองเสาหลัก คือ ประชาคมความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Security Community) และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community) และได้มีการจัดทำกฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) เพื่อการดำเนินงานไปสู่ประชาคมอาเซียน 

    ผลผูกพันต่อประเทศไทยในการรวมตัวเป็น AEC


  • การเปิดเสรีการค้าสินค้า ภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement : ATIGA)
    มาตรการด้านภาษี อาเซียนมีเป้าหมายที่จะต้องดำเนินการยกเลิกภาษีสินค้าสำหรับกลุ่มอาเซียน 6 ภายในปี 2553 (ค.ศ. 2010) และสมาชิกใหม่ 4 ประเทศ (CLMV) ภายในปี 2558 (ค.ศ. 2015) ซึ่งไทยได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2553 ดังนั้นสามารถกล่าวได้การรวมตัวกันเป็น AEC จึงไม่ทำให้ไทยต้องลดภาษีสินค้าใดๆ เพิ่มเติมอีกโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2558
  • การเปิดเสรีการค้าบริการ โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนอาเซียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ภายในปี 2553 ในสาขาบริการสำคัญ (Priority Integration Sector) ได้แก่ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาสุขภาพ และสาขาการท่องเที่ยว ภายในปี 2556 ในสาขาโลจิสติกส์ และภายในปี 2558 ในสาขาบริการอื่น ๆ ทุกสาขา ทั้งนี้ สามารถยกเว้นสาขาที่อ่อนไหวได้
  • การเปิดเสรีการลงทุน ในสาขาอุตสาหกรรมที่ตกลงกันและการให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ
  • การเปิดเสรีด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย จะเปิดเสรียิ่งขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยให้สมาชิกมีมาตรการปกป้องที่เพียงพอเพื่อรองรับผลกระทบ
  • การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี โดยให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศ
  • การดำเนินการตามความร่วมมือรายสาขาอื่น ๆ เช่น ความร่วมมือด้านเหมืองแร่ ความร่วมมือด้าน SMEs การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน (คมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน) เป็นต้น

    กราฟแสดงอัตราการขยายตัวของเศรษซกิจอาเซียน

  • วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    เพลงประจำอาเซียน

    เพลง  : The ASEAN Way
    เนื้อร้องและทำนอง : นายกิตติคุณ สดประเสริฐ

    เนื้อเพลง ภาษาอังกฤษ
    Raise our flag high, sky high
    Embrace the pride in our heart
    ASEAN we are bonded as one
    Look-in out-ward to the world.
    For peace, our goal from the very strat
    And prosperity to last.
    WE dare to dream we care to share.
    Together of ASEAN
    We dare to dream,
    We care to share for it's the way of ASEAN

    เนื้อเพลงภาษาไทย
    พลิ้วลู่ลม โบกสะบัด ใต้หมู่ธงปลิวไสว
    สัญญาณแห่ง สัญญาทางใจ
    วันที่เรามาพบกัน
    อาเซียน เป็นหนึ่ง ดังที่เราปราถนา
    เราพร้อมเดินหน้าไปตรงนั้น
    หล่อหลวมจิตใจ ให้เป็นหนึ่งเดียว
    อาเซียนหยึดเหนี่ยวสัมพันธ์
    ให้สังคมนี้ มีแต่แบ่งปัน
    เศรษฐกิจ มั่นคง ก้าวไกล

    ผลกระทบของ AEC และการปรับตัวของอุตสาหกรรมไทย

    ผลกระทบเชิงบวก
    1. การลดและยกเลิกมาตรการทางภาษีในปี 2553 เป็นร้อยละ 0 ทั้งหมดยกเว้นรายการสินค้าอ่อนไหวและอ่อนไหวมาก (Sensitive and Highly Sensitive) ของกลุ่มอาเซียน 6 รวมทั้งประเทศไทย และ 2558 สำหรับกลุ่ม CLMV เป็นการอุปสรรคทางการค้าและส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ เป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งออกของไทย โดยตลาดอาเซียนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย ทั้งนี้ ในปี 2553 มูลค่าการค้าของไทยกับอาเซียนมีจำนวน 2.37 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 22.7 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย (เพิ่มจากร้อยละ 20 ในปี 2552)
    2. ต้นทุนในการผลิตของไทยต่ำลง สามารถนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ใช้ในการผลิต ได้ในราคาที่ถูกลง
    3. เป็นการสร้างเสริมโอกาสการลงทุนเมื่อประเทศอาเซียนมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้เสรีมากยิ่งขึ้น
    4. เพิ่มพูนขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย เมื่อมีการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกัน/เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับอาเซียนอื่น ๆ
    5. เพิ่มอำนาจการต่อรองของไทยในเวทีการค้าโลก
    ผลกระทบเชิงลบ
    1. สินค้าของประเทศอาเซียนอื่นเข้าสู่ตลาดไทยได้โดยไม่มีภาระภาษี ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องแข่งขันมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาไทยกลับมีมูลค่าการส่งออกไปยังอาเซียนสูงกว่าการนำเข้าจากอาเซียน
    2. ในด้านการลงทุน หากประเทศไทยไม่มีการพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน (Infrastructure) ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน (Labor productivity) และไม่มีการปรับปรุงกฎระเบียบกฎหมายให้มีความทันสมัยไม่เป็นอุปสรรคต่อนักลงทุน อาจทำให้มีการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่นๆ ใน ASEAN ที่เหมาะสมกว่า
    3. การเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรี อาจทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของแรงงานมีฝีมือของไทยไปประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่า เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน และต้องจ้างแรงงานต่างด้าวจากประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าเข้ามา อาจก่อปัญหาด้านสังคม และเนื่องจากทิศทางนโยบายของไทยคือ การเป็น “รัฐสวัสดิการ” ทำให้งบประมาณของรัฐส่วนหนึ่งจะไปเป็นสวัสดิการของแรงงานต่างด้าว
    4. ตลาดสินค้าในประเทศ (Domestic Market) หากตลาดภายในของไทยยังไม่มีกลไกในการป้องกันไม่ให้สินค้าคุณภาพต่ำกว่าที่ผลิตได้ในประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นเข้ามาขายในประเทศมากขึ้น ก็จะทำให้นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยที่มีเป้าหมายในการพัฒนาในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงขึ้นอาจเกิดปัญหาอุปสรรคได้ เนื่องจากไม่มีตลาดภายในประเทศรองรับ รวมทั้งอาจส่งผลทางจิตวิทยาแก่ผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตได้

    อาเซียน + 3

    สัญลักษณ์อาเซียน
         อาเซียน +3 ประกอบด้วยสมาชิก 13 ชาติ คือ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน รวมกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีประชากรรวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านคน หรือหนึ่งในสามของประชากรโลก แต่เมื่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เข้าด้วยกัน จะทำให้มีมูลค่าถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 16 ของจีดีพีโลก ขณะที่ยอดเงินสำรองต่างประเทศรวมกันจะสูงถึง 3.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมากกว่ากึ่งหนึ่งของเงินสำรองต่างประเทศของโลก โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจเหล่านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอาเซียน+3 จะมีบทบาทเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต 
        ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียน จะได้รับผลประโยชน์จากความร่วมมือในกรอบของเขตการค้าเสรีอาเซียนบวก+3 (FTA Asian +3) มูลค่าประมาณ 62,186 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทยในฐานะสมาชิกอาเซียนจะได้รับประโยชน์มากที่สุด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,943 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อินโดนีเซียมีแนวโน้มจะได้ประโยชน์ใกล้เคียงกัน คือประมาณ 7,884 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเวียดนามคาดว่าจะได้รับประโยชน์มูลค่าประมาณ 5,293 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ประชาคมอาเซียนอาเซียนประกอบด้วยเสาหลัก 3 เสาดังนี้


    1. ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Security Community - ASC )
        คือ มุ่งให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีระบบแก้ไขความขัดแย้งระหว่างกันได้ด้วยดี มีเสถียรภาพอย่างรอบด้าน มีกรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง ทั้งรูปแบเดิมและรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและมั่นคง
    2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC)
        คือ มุ่งให้เกิดความการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และการอำนวยความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน อันจะทำให้ภูมิภาคมีความเจริญมั่นคง และสามารถที่จะแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ได้เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชากรในอาเซียนโดย
     - มุ่งให้เกิดการไหลเวียนอย่างเสรีของสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสัมคมภายในปี 2020
     - ทำให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดี่ยว
     - ให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกใหม่ของอาเซียนเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาและช่วยให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมกระบวนการรวมตัวของเศรษฐกิจของอาเซียน
     - ส่งเสรีมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกินมหภาคตลาดการเงินและตลาดทุน การประกันภัยและภาษีอากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม เป็นต้น
    3. ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community - ASCC)
        คือ เพื่อให้ประชาชนแต่ละประเทศอาเซียนอยู่ร่วมกันภายใต้แนวคิดสีงคมที่เอื้ออาทร มีสวัสดิการทางสังคมที่ดี และมีความมั่นคงทางสัมคม

    วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    10 ประเทศในอาเซียน

    1. บรูไดนารุสซาลาม (Brunei Darussalam)


        เมืองหลวงคือ บันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มากนัก มีพื้นที่ประมาณ 5765 ตารางกิโลเมตร ปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราช โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีประชาการ 381371 ประชากรส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม และใช้ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราชการ

    2. ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia)


        เมืองหลวงคือ กรุงพนมเปญ เป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดกับประเทศไทยทางทิศเหนือและทิศตะวันตก มีพื้นที่ 181035 ตารางกิโลเมตร ประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย มีประชากร 14 ล้านคน ประชากรส่วนมากอาศัยอยู่ในชนบทกว่าร้อยละ 80 นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ

    3.สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of  Indonesia)


    เมืองหลวงคือ กรุงจาการ์ตา ถือเป็นประเทศหมุ่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 1919440 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน ซึ่งร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา สว่นใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และใช้ภาษาบาฮาซาอินโดนีเซียเป็นภาษาราชการ

    4.สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (The Lao People's Democratic Repiblic of Lao PDR)


        เมืองหลวงคือ กรุงเวียงจันทร์ ติดกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก มีพื้นที่ประมาณ 236800 ตารางกิโลเมตร พื้นที่กว่าร้อยละ 90 เป็นภูเขาและที่ราบสูง ไม่มีพื้นที่ส่วนใดติดทะเลเลย ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม มีประชากรประมาณ 6.4 ล้านคน ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาราชการ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ

    5. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)


         เมืองหลวงคือ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตศูนย์สูตร แบ่งเป็นมาเลเซียตะวันตกคาบสมุทรมลายู และมาเลเซียตะวันออก ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนีย มีพื้นที่ 329758 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากร 26.24 ล้านคน ศาสนาประจำชาติคือ ศาสนาอิสลาม ใช้ภาษาบาฮาซามะลายูเป็นภาษาราชการ

    6.สาธารณรัฐฟิลิบปินส์ (Republie of the Philipines )


         เมืองหลวงคือ กรุงมะนิลา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 7107 เกาะ มีพื้นที่ประมาณ 298.2 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 92 ล้านคน ส่วนใหญ่นับถือศานาคริสต์นอกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีนับถือมากเป็นอันดับ 4 ของโลก มีกรใช้ภาษาภายในประเทศมากถึง 170 ภาษา ภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษ และภาษาตากาลอก

    7. สาธารณรัฐสิงคโปร์ (The Republic of Singapore)

         เมืองหลวงคือ กรุงสิงคโปร์ ตั้งอยู่บนตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางเรือของอาเซียน จึงเป็นประเทศที่พัฒนาทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในย่านนี้ มีพื้นที่ประมาณ 699 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 4.48 ล้านคน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ภาษาประจำชาติคือภาษามาเลย์ มีการปกครองแบบสาธารณรัฐ (ประชาธิไตยแบบรัฐสภาแต่มีสภาเดียว)

    8. ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand)

         เมืองหลวงคือ กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 513115 ตารางกิโลเมตร มีประชากรจำนวน 65.4 ล้านคน นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ ปกครองด้วยระบอบประชาติปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

    9. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam)

       เมืองหลวงคือ กรุงฮานอย มีพื้นที่ 331689 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประชากรประมาณ 88 ล้านคน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์

    10. สหภาพพม่า (Union of Myanmar)


         เมืองหลวงคือ เนปิดอว ติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 678500 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 48 ล้านคน ร้อยละ 90 นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ


    วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบและขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา

    6.2 เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบและขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
        การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ความเข้าใจในปัญหาและความคิดอย่างมีเหตุผลและเป็นขั้นตอนแล้ว ยังต้องอาศัยเครื่องมือที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือเป็นแผนภาพซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้ดีโดยเฉพาะปัญหาที่ยุ่งยาก ซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นแนวทางให้ผู้เกี่ยวข้องหรือผู้ดำเนินการปรับปรุงในอนาคต เข้าใจวิธีการแก้ปัญหาที่เราพัฒนาขึ้นได้ง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบวิธีการแก้ปัญหามี 2 ลัษณะคือ รหัสลำลองและผังงาน

    ตัวอย่าง การจัดการข้อมูล


    1.รหัสลำลอง
        รหัสลำลองเป็นการใช้คำบรรยายเพื่ออธิบายขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา การเขียนรหัสลำลองไม่มีรูปแบบแน่นอน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความถนัดของผู้เขียน ซึ่งอาจจะเขียนอย่างละเอียดหรืออย่างย่อ และในบางครั้งอาจอธิบายในลักษณะคล้ายภาษาพูด หรืออาจจะเขียนในรูปแบบคล้ายภาษาโปรแกรมก็ได้เช่นกัน
    ตัวอย่าง การเขียนรหัสลำลอง


    2. ผังงาน
         ผังงานเป็นการอธิบายขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้รูปสัญลักษณ์มาเรียงต่อกัน สัญลักษณ์แต่ละแบบจะมีความหมายถึงกระบวนการที่แตกต่างกัน โดยจะมีคำอธิบายสั้นๆเพิ่มเติมในสัญลักษณ์ ความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้ในผังงานที่ถูกกำหนดโดยสภาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (The American National Standard institute : ANSI) เพื่อให้สามารถสื่อตวามหมายได้ตรงกัน ซึ่งมีรายละเอียดของสัญลักษณ์และความหมายที่ครรทราบ

    ตัวอย่าง สัญลักษณ์และความหมายของงาน


    หลักการในการเขียนผังงาน
         ในการเขียนผังงานมีหลักการ คือ ให้เลือกสัญลักษณ์แทรกระบวนการที่ถูกต้อง และเขียนข้อความสั้นๆ แทนสิ่งที่ต้องการกระทำลงในรูปสัญลักษณ์ แล้วนำมาจัดเรียงต่อกัน เชื่อมแต่ละสัญลักษณ์ด้วยลูกศร โโยทั่วไปแล้ว จะเรียงลำดับของสัญลักษณ์ไว้จากบนลงล่าง ตามลำดับของการทำงาน หรือ อาจจะใช้ลูกศรระบุลำดับก่อนหลังของการทำงานก้ได้

    ตัวอย่าง การเขียนผังงาน

    * ข้อควรระวัง การเชื่อมสัญลักลักษณ์ต่างๆ ของผังงาน อาจทำให้มีการตัดกันของเส้นลูกศรอาจเกิดความสับสนได้ ผู้เขียนจึงควรเลือกใช้สัญลักษณ์จุดเชื่อมต่อในหน้าเดียวกัน โดยระบุตัวอักษรเดียวกันเพื่อหมายถึงการเชื่อมสองจุดของผังงานเข้าด้วยกัน แต่ถ้าผังงานใหญ่เกินหน้ากระดาษ ให้เลือกให้สัญลักษณ์จุดเชื่อมต่อหน้ากระดาษ เพื่อเชื่อมระหว่างสองจุดของผังงานที่ข้ามไปอยุ่คนละหน้ากัน

    รหัสลำลองและผังงานการหาค่าเฉลี่ยของจำนวนเต็ม 5 จำนวน

    ตัวอย่าง รหัสลำลองและผังงานการหาค่าเฉลี่ยของจำนวนเต็ม 5 จำนวน

        ในตัวอย่างนี้ มีการใช้งานตัวแปรหลายตัวเพื่อเก็บค่าที่แตกต่างกัน ได้แก่ ตัวแปร counter ซึ่งจะใช้เพื่อเป็นตัวนับว่ามีการรับค่าตัวเลขไปกี่ตัวแล้ว ตัวแปร sum ใช้เพื่อเก็บค่าผลรวมของตัวเลขทุกตัว ซึ่งตัวแปรทั้งสองนี้จะต้องถูกกำหนดค่าให้เป็น 0 ก่อนที่จะใช้งาน สำหรับตัวแปร x จะใช้เพื่อรับค่าตัวเลขทีละตัว เมื่อรับค่าแล้ว จะถูกนำค่าไปรวมกับค่าsum เป็นการเก็บค่าผลรวม แล้วตัวแปร x จะสามารถถูกนำไปใช้ซ้ำเพื่อรับค่าตัวเลขตัวถัดไปได้อีก ตัวแปรสุดท้ายคือ average ที่ใช้เพื่อเก็บค่าเฉลี่ยที่หาได้แล้วรอการนำไปแสดงผลต่อไป


    วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    ประวิติส่วนตัว

    แนะนำตัว ขอรับกระผ้ม


    ชื่อ : นายอัศนี ทิพกนก
    ชื่อเล่น : บาส
    วัน/เดือน/ปีเกิด : 7/พฤศจิกายน/2539
    สีที่ชอบ : สีน้ำเงิน
    กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอลและบาสเกตบอล
    ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้น : ม.4
    สายการเรียน : วิทย์-คณิต
    โรงเรียน : ลำปางกัลยาณี
    อำเภอ : เมือง  จังหวัด : ลำปาง
    ศาสนาที่นับถือ : พุทธ
    facebook : yanata_kotic@hotmail.com
    สมาชิกวงดนตรี : PONIC (เป็นมือกลองค้าบ)
    ประเทศไทย น่ะจ๊ะ ^^